Diary

10 เหตุผลที่ความรักเหมือนกับขนมเค้ก

 

1. มองเผินๆ ก็จะเห็นแต่ความหอมหวาน น่าลิ้มลอง
2. มองนานๆ ก็จะยิ่งอยากกิน
3. แต่ความอร่อยของขนมเค้กไม่ได้วัดกันที่ความสวยงามของหน้าตา
4. และความรักก็ต้องมองให้ลึกลงไป
5. ขนมเค้กจะสมบูรณ์แบบต้องมีเนื้อเค้กที่อร่อยจริง
6. เพราะถ้าเลือกกินแต่ครีมที่แต่งหน้า...ก็จะเลี่ยน
7. และถ้าเลือกมองแต่ความสวยงามภายนอกก็จะได้รู้จักแต่ความรักอย่างผิวเผิน
8. เหมือนที่ไม่ได้รู้จักความอร่อยของเนื้อเค้ก
9. กว่าจะมาเป็นขนมเค้กที่สมบูรณ์แบบได้ ต้องใส่ใจในทุกส่วนประกอบ
10. และกว่าจะเป็นความรักที่สมบูรณ์แบบได้...ก็เช่นกัน
 
 

10 กฎเหล็กซี่รีส์เกาหลี

 
1.คนที่หล่อที่สุดในเรื่องคนนั้นเป็น..พระรอง
2.เช่นเดียวกัน อย่าแสนดีจนเกินไป ไม่งั้นจะได้เป็น "พระรอง"
3.นางเอกจะสวยแบบบ้านๆปนเงอะงะหรือเอ๋อเล็กน้อย ถ้าสวยเลิศเชิดเปอร์เฟคท์

    เนี๊ยบหรูมีชาติ ตระกูลจะเป็นตัวอิจฉา
4.ในครอบครัวพระเอกอย่างน้อยต้องมีญาติพระเอกหนึ่งคนไม่เห็นด้วยกับความรักของ

     พระเอกนางเอก (จำนวนญาติที่ไม่เห็นด้วยจะเพิ่มขึ้นตามดีกรีความรันทดของเรื่อง)
5.ต้องมีเพื่อนของนางเอก หรือพระเอก แต่ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนนางเอก คอยทำตัวตลก

    เฮฮาในเรื่อง เพื่อนพวกนี้มักมาเป็นแพ็คคู่เสมอและสุดท้ายจะลงเอยกันเอง
6.พ่อ แม่นางเอกมักลำบากยิ่งกว่านางเอกซะอีกหรือไม่ก็เป็นหนึ่งบุคคลที่ทำ

   ให้ชีวิตนางเอกลำบากไม่จบสิ้น
7.แทบไม่มีเรื่องไหนเลยที่นางเอกฐานะดี โดยเฉพาะดีกว่าพระเอก
8.โชคชะตาของตัวละครในซีรีส์เกาหลีมักจะวนเวียนกันอยู่ 4 คนดังนี้
พระเอก - ชายผู้แม้มีรักแท้ในใจแต่ก็มักมีคู่หมั้น มีกิ๊ก
มีอื่นๆอยู่แล้ว ทำให้ยัยคนนั้นต้องมาตามราวีความ
รักไม่จบไม่สิ้น
นางเอก-ผู้หญิงที่แม้จะซุ่มซ่ามกะโปโลแค่ไหน ก็จะมีหน่มไฮโซแสนดี(อย่างพระรอง)

 มาสะดุดรักอย่างง่ายๆเสมอ
พระรอง - สิ่งมีชีวิตที่น่าดูที่สุดในซีรีส์เกาหลีเป็นโมเดล"ชายในฝัน"ของสาวๆหล่อสุด

 รวยสุด ดีสุดๆ แต่ไม่รู้ทำไม๊ กินแห้วทุกที(เพราะนางเอกเอ๋อนิดๆหรือเปล่า)
ตัวอิจฉา-สวย หรู ดูดี มีตระกูลแถมไม่โง่อีกต่างหาก แต่เอาแต่ใจและชอบเอาชนะ

ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่ทำน้ำหกรดเสื้อนางเอกไปจนถึงฆ่าตัวตายเพื่อให้พระเอกกลับมา
9. "ผู้ชายก็ร้องไห้ได้ในซีรีส์เกาหลี" (ร้องเยอะด้วย)
10.ถ้าเป็นแนวรันทดตอนจบจะต้องมีใครสักคน ไม่นางเอกก็พระเอก เป็น"มะเร็ง"ตาย

      ถ้าเป็นแนวกุ๊กกิ๊ก ตอนจบต้องมีใครสักคนไปต่างประเทศ
 
 

เค้กมี 4 ประเภท

1. เค้กเนย (butter cake)
               เป็นเค้กที่มีไขมันสูง การขึ้นฟูของเค้กประเภทนี้เกิดจากอากาศที่ได้จาก
การตีเนยกับน้ำตาลโดยไขมันจะเก็บอากาศไว้ ซึ่งจะขยายตัวในระหว่างการอบเค้ก
ประเภทนี้ได้แก่ไวท์เค้ก ช็อกโกแลตเค้ก ฟรุ้ตเค้ก เค้กไข่ (unshortened cake
หรือ Foam – type cake)เป็นเค้กที่ไม่มีไขมันในส่วนผสม เนื้อเค้กและปริมาตรของ
เค้กขึ้นอยู่กับการขยายตัวของไข่ขาวที่นำมาตีจนเป็นฟองซึ่งจะเก็บอากาศเข้าไว้ใน
ระหว่างการตีไข่ ทำให้เค้กขยายตัวหรือขึ้นฟูในระหว่างการอบ การทำเค้กประเภทนี้
ควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะฟองที่เกิดจากการตีไข่ขาวนั้นอ่อนตัว  ไม่เหมือน
เค้กเนย เค้กประเภทนี้แบ่งได้ 2 ประเภท
 
2. เค้กสปองจ์ (Sponge cake)                  
          เค้กชนิดนี้ขึ้นฟูด้วยไข่ คุณภาพของไข่จะมีผลต่อการทำสปันจ์เค้กมากไข่ที่สด
และใหม่จะมีความคงตัวกว่า ไข่อุณหภูมิห้องจะตีได้ปริมาณที่มากกว่าไข่ที่เย็นเค้กนี้จะ
 นำส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นเนยละลายตีรวมกันโดยเพิ่มสารเสริมคุณภาพ ตีจน
ส่วนผสมขึ้นฟูจึงใส่เนยละลาย

 
3. เมอแรงก์เค้ก (merinque cake)        
     เค้กกลุ่มนี้ใช้เฉพาะไข่ขาวเพียงอย่างเดียว เนื้อเค้กจะเบาๆ เช่น แองเจิลเค้ก
เค้กชิฟฟอน (Chiffon Cake หรือ Combination Type Cake) เค้กที่มีลักษณะผสม
ของเค้กเนยและเค้กไข่ คือ มีโครงสร้างที่ละเอียดของเค้กไข่ และมีเนื้อเค้กที่มันเงา
ของเค้กเนย ต่างจากเค้กเนยตรงชิฟฟอนเค้กใช้น้ำมันพืชแทนเนยหรือมาการีนใน
เค้กเนยและวิธีการทำผสมระหว่างเค้กเนยและเค้กไข่
 
4. ชีสเค้ก (Cheesecake)                 
          เป็นขนมที่มีส่วนผสมหลักคือ ครีมขีส ไข่ น้ำตาล นม ผสมให้เข้กัน
แล้วนำไปใส่ครัสต์ หรือจานขนมปังอบกรอบบด จริง ๆ แต่ที่ไม่เรียกว่าชีสพาย
เพราะไม่ต้องนำไปอบ

 

 

 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น